Netherlands Pointer

France

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วัฒนธรรมและประเพณีของฝรั่งเศส

ประเพณีของฝรั่งเศส




Beheading Bottles of Champagne
เป็นประเพณีที่ยังนิยมกันมากในงานแต่งงาน คือการตัดคอขวดแชมเปญด้วยมีดโค้ง ประเพณีเกิดขึ้นในยุคของนโปเลียน เมื่อ Hussards อยากเปิดแชมเปญฉลองชัยชนะ ด้วยการใช้มีดโค้งตัดคอขวดออก จากคำจารึกกล่าวว่า Hussards, ซึ่งเป็นทหารม้า จะควบม้าด้วยความเร็ว ไปหาผู้หญิงซึ่งถือขวดแชมเปญ หรือไวน์ไว้ แล้วตัดคอขวดด้วยความเร็วและแม่นยำ


Christmas
ประเพณีดั้งเดิมของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่เป็นวันหยุด การแสดงหุ่นกระบอกในวัน คริสมาตร์อีฟ เป็นงานที่เกิดเป็นประจำ ช่วงเที่ยงคืน ผู้คนจะไปที่โบสถ์เพื่อรำลึกถึงพระเจ้า หลังจากนั้นจะทานอาหารร่วมกัน ที่เรียกว่า ประเพณี le Réveillon ระลึกถึงการตื่น หรือเกิดใหม่ของพระคริสต์ ซึ่งแต่ละท้องถิ่นอาจทำแตกต่างกันออกนิดหน่อย แต่ที่ต้องมีคือ ไก่งวง ไก่ ห่าน และ boudin blanc  เด็กๆเฝ้ารอ Père Noël (Santa Clause) และวางรองเท้าทิ้งไว้ข้างกองไฟ ในตอนเช้าจะมีของขวัญจะวางในนั้น ต้นไม้ถูกตกแต่งด้วยถั่ว และ ลูกอม นอกจากนี้ เด็กยังเชื่อว่า Père Fouettard จะมาลงโทษเด็กดื้อ




Easter
ในฝรั่งเศสเรียก Pâques เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของที่นี่ ซึ่งเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มคาทอลิค ตามประเพณีแล้ว จะไม่มีการตีระฆังในวันพฤหัสก่อน Good Friday ตลอดหลายวันจะเงียบอยู่อย่างนั้น จนถึง Easter Sunday ทุกอย่างจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ระฆังดัง ผู้คนสวมกอด และจูบกัน




Flying Bells
เด็กๆที่นี่ไม่ได้รอไข่อีสเตอร์จากเจ้ากระต่ายน้อย ถ้าจะพูดให้ถูก ชาวฝรั่งเศส เชื่อว่า Flying Bells จะจากไปในวันพฤหัสก่อน Good Friday และพาเอาความทุกข์โศกต่อการจากไปของพระคริสต์เมื่อถูกตรึงกางเขน ไปพร้อมกับพวกมันด้วย พวกมันไปที่โรม เพื่อเข้าเฝ้าประสันตะปาปา ก่อนเดินทางกลับมาในเช้าวันอาทิตย์ หอบเอาช็อคโกแลตรูปไข่อีสเตอร์มาซ่อนไว้ตามสวน และรอบๆบ้านให้เด็กค้นหาอย่างสนุกสนาน




Poison d'Avril
เป็นชื่อของ French Easter Fish และมาในรูปของช็อคโกแลต ประเพณีเก่าแก่ นี้เกิดขึ้นย้อนหลังไปหลายศตวรรษ ในวันที่ พฤษภาคม เป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งที่เด็กๆจะพยายามเอาปลากระดาษ ไปแปะตามหลังของผู้ใหญ่ แล้ววิ่งหนีสุดชีวิต พร้อมตะโกนว่า “Poison d'Avril!!”,ซึ่งก็คล้ายๆกับ “April Fools!” นั่นเอง



Bastille Day
การฉลองปฏฺวัติรัฐประหาร มีขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคม เป็นงานฉลองที่มีสีสันมาก มีการจุดพลุ ขบวนพาเหรด และการร้องรำตามถนน


5-Week Holidays
ลูกจ้างทุกๆคนจะได้รับวันหยุดติดต่อกัน สัปดาห์ในแต่ละปี และเดือนสิงหาคม คือวันหยุดยาวตามประเพณีของฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศสมักออกท่องเที่ยว แคมปิ้ง หรือ ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาว คนมันไปเล่นสกีกันที่ French Alps



วัฒนธรรมของฝรั่งเศส
วัฒนธรรม ในประเทศฝรั่งเศสและสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ
1.ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น สิ่งที่ควรทำ - ไม่ควรทำ 1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour) ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า หรือบงซัว (Bonsoir) ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น กล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า โอ"เครอ"วัว (Au revoir)  ที่แปลว่า ลาก่อน และกล่าวขอบคุณว่า แม็กซิ (Merci) ได้
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง (la bise) ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริกรว่า"การ์ซ็อง (garçon)" ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่า boy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่ สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฎหมาย
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
                6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับ นั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น