สกุลเงินของฝรั่งเศส
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
สกุลเงินของฝรั่งเศส
ใช้เงินสกุลยูโร (EURO) โดย 1 ยูโร มีค่าประมาณ 45 บาทไทย ชนิดของธนบัตรมีตั้งแต่ 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร ส่วนชนิดของเหรียญประกอบด้วย 1,
2, 5, 10, 20, 2, 1 ยูโร และ 50 เซนต์ ณ
วันที่ 20 ธันวาคม แต่บางทีก็ใช้ฟรังค์ (FF)
ธนบัตร: €5, €10, €20, €50, €100, €200, €500
การแต่งกายประจำชาติฝรั่งเศส
การแต่งกายประจำชาติฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
(1920-1930-1942)
ในสมัยที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศไทยเราอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 6 หลังจาก สงครามโลกแล้ว ผู้หญิงจะมาแต่งตัว นุ่งกระโปรงรัดรั้งอย่างเดิมไม่ได้ เพราะในช่วงสงครามผู้หญิง จะต้องแต่งตัวแบบสบาย ๆ และเศรษฐกิจหลังสงครามตกต่ำ จึงมีการเปลี่ยนแปลงแฟชั่นใหม่ในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งเรียกว่า The Gay Twenties หรือแฟชั่นปี 1920 ซึ่งเป็นมูลฐานในการเรียกแฟชั่นแต่ ละปี
The Gay Twenties เป็นเสื้อที่เก๋สวมใส่สบาย ทรงหลวม ตัวยาวแค่สะโพก กระโปรง คลุมเข่าเรียกว่า Gasby สำหรับชุดราตรียาว นิยมผ้าต่วนดำ ทรงกระโปรงจะบานตรงชาย เล็กน้อย เปิดผ่าด้านหลัง เริ่มมีชุดอาบน้ำที่ทำจากผ้าเจอร์ซี่ ถุงน่อง เสื้อยกทรง “Brassiere” กระโปรงชั้น ใน “Petticoat” ทำด้วยผ้าเจอร์ซี่ ชุด Slip มีสเตย์รัดหน้าท้อง
The Gay Twenties เป็นเสื้อที่เก๋สวมใส่สบาย ทรงหลวม ตัวยาวแค่สะโพก กระโปรง คลุมเข่าเรียกว่า Gasby สำหรับชุดราตรียาว นิยมผ้าต่วนดำ ทรงกระโปรงจะบานตรงชาย เล็กน้อย เปิดผ่าด้านหลัง เริ่มมีชุดอาบน้ำที่ทำจากผ้าเจอร์ซี่ ถุงน่อง เสื้อยกทรง “Brassiere” กระโปรงชั้น ใน “Petticoat” ทำด้วยผ้าเจอร์ซี่ ชุด Slip มีสเตย์รัดหน้าท้อง
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (1942)
เป็นภาวะที่ฝรั่งเศสขาดแคลน เครื่องแต่งกาย สินค้าผ้าขาดแคลน การแต่งกายของผู้หญิง ต้องมีการจำกัดเรื่องผ้า เป็นกระโปรงทรงตรง ๆ แคบ ผ่าข้างหลัง หรือหน้าเพื่อให้เดินสะดวก ชายเสื้อกระโปรงพับได้ไม่เกิน 1 นิ้ว
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (New Look 1974)
เมื่อ สงครามโลกดำเนินมาได้ 4 ปี หลังจากนี้ก็มีนักออกแบบเสื้อผ้าเกิดขึ้น หลายคน จนกระทั่ง ค.ศ. 1974 Christian Diro ได้นำผลงานที่ชื่อ New Look ออกแสดงและประสบ ความสำเร็จเป็นลักษณะกระโปรงบาน คลุมเข่า จนถึงข้อเท้ามีหลายแบบทั้งเป็นผ้าเฉลียง จีบ รอบตัว ต่อระบายเป็นชั้น ๆ มีความกว้างมาก เสื้อเป็นเสื้อเข้ารูป และมีกระโปรงทรง A-line ที่ น่าสนใจอีกชั้น หนึ่ง ลักษณะกระโปรงจะบานออกเล็กน้อย และใช้เกล็ดตามยาวช่วยทำให้ดู รูปร่างดีขึ้น
สำหรับเครื่องแต่งกายของผู้ชายได้วิวัฒนาการจากเดิมมาก ตัดความหรูหราเกินความ จำเป็น ลงไปบ้าง และใช้เป็นชุดสากลมาจนปัจจุบันนี้
ภูมิศาสตร์และแผนที่ดินแดนของฝรั่งเศส
ภูมิศาสตร์
ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรป
(La Métropole หรือ France
métropolitaine) ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก
ฝรั่งเศสก็ยังมีดินแดนที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ทะเลแคริบเบียน อเมริกาใต้
มหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกและทางใต้ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้
รวมทั้งบางส่วนในทวีปแอนตาร์กติกาอีกด้วย
(การอ้างสิทธิเหนือดินแดนในแอนตาร์กติกาไม่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ดู
สนธิสัญญาแอนตาร์กติก)
ภาพถ่ายแผ่นดินใหญ่ประเทศฝรั่งเศสจากดาวเทียมในเดือนสิงหาคม
พ.ศ. 2545
ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปนั้นมีพื้นที่
543,935 ตารางกิโลเมตร (210,013 ตารางไมล์)
ทำให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป
ซึ่งใหญ่กว่าประเทศสเปนเพียง นิดเดียว ประเทศฝรั่งเศสมีพื้นที่ครอบคลุมลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายมาก
ตั้งแต่ที่ราบชายฝั่งในภาคเหนือและตะวันตก
ซึ่งติดกับทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติก
ไปจนถึงเทือกเขาแอลป์ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้
ที่ราบสูงมาซิฟซ็องทราลทางภาคใต้ตอนกลางและเทือกเขาพิเรนีสทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
ประเทศฝรั่งเศสยังมีจุดที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปตะวันตกคือ ยอดเขามงบล็อง (Mont Blanc) ซึ่งสูง 4,807 เมตร (15,770 ฟุต) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์
บริเวณชายแดนประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี
ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปยังมีแม่น้ำต่าง
ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย เช่น แม่น้ำลัวร์ แม่น้ำการอน แม่น้ำแซน
และแม่น้ำโรนซึ่งแบ่งที่ราบสูงมาซิฟซ็องทราลออกจากเทือกเขาแอลป์อีกด้วย
โดยไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่กามาร์ก ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
(2 เมตร หรือ 6.5 ฟุต
จากระดับน้ำทะเล) และยังมีกอร์ส (คอร์ซิกา) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
พื้นที่ของประเทศฝรั่งเศส
รวมทั้งจังหวัดและดินแดนโพ้นทะเล (ไม่รวมดินแดนอาเดลี) คือ 674,843 ตารางกิโลเมตร (260,558 ตารางไมล์)
นับเป็น 0.45% ของพื้นแผ่นดินโลกทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตามประเทศฝรั่งเศสครอบครองพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะเป็นอันดับสองของโลก
ด้วยเนื้อที่ 11,035,000 ตารางกิโลเมตร
(4,260,000 ตารางไมล์) นับเป็น 8% ของพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทั้งหมดในโลก ตามหลังสหรัฐอเมริกา
ไปเพียง 316,000 ตารางกิโลเมตร และนำประเทศออสเตรเลียกว่า 2,886,750 ตารางกิโลเมตร
แผนที่ดินแดนของฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปตั้งอยู่ระหว่าง
41° and 50° เหนือ
บนขอบทวีปยุโรปตะวันตกและตั้งอยู่ในภูมิอากาศเขตอบอุ่นเหนือ
ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีสภาพภูมิอากาศเขตอบอุ่น
แต่กระนั้นภูมิประเทศและทะเลก็มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศเหมือนกัน ละติจูด
ลองจิจูดและความสูงเหนือระดับน้ำทะเลทำ ให้ประเทศฝรั่งเศสมีภูมิอากาศแบบคละอีกด้วย
ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
ภาคตะวันตกส่วนมากจะมีปริมาณน้ำฝนสูง ฤดูหนาวไม่มากและฤดูร้อนเย็นสบาย
ภายในประเทศภูมิอากาศจะเปลี่ยนไปทางภาคพื้นทวีปยุโรป อากาศร้อน มีมรสุมในฤดูร้อน
ฤดูหนาวหนาวกว่าเดิมและมีฝนตกน้อย ส่วนภูมิอากาศเทือกเขาแอลป์และ
แถบบริเวณเทือกเขาอื่น ๆ ส่วนมากมักจะมีภูมิอากาศแถบเทือกเขา
ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งกว่า 150 วันต่อปีและปกคลุมด้วยหิมะกว่า
6 เดือน
วันสำคัญของฝรั่งเศส
วันสำคัญของฝรั่งเศส
แม้ว่าฝรั่งเศสจะเป็นรัฐฆราวาส
แต่วันสำคัญต่าง ๆ กลับเกี่ยวข้องกับศาสนาเป็นส่วนใหญ่ อาจด้วยเหตุบังเอิญว่าวันต่าง
ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาคริสต์
วันขึ้นปีใหม่
(Jour de l’an) 1 มกราคม วันนักขัตฤกษ์ ตรงกับวันแรกของปีตามตารางปฎิทินสากล
ในประเทศฝรั่งเศส
10 มกราคมนี้เริ่มกำหนดใช้ในปี ค.ศ. 1564
และ วันที่ 31 ธันวาคมถือว่าเป็นการฉลองคืนส่งท้าย
ปีเก่าเพื่อต้อนรับขึ้นวันปีใหม่ด้วย
ในวันขึ้นปีใหม่นี้ ถือเป็นโอกาสที่จะให้ของขวัญ (เงิน) กับเด็ก ๆ
เทศกาลของชาวคริสเตียน ในโบสถ์ละติน
เป็นการฉลองการมาเยี่ยม พระเยซูของ Rois mages โดยธรรมเนียม มีการทานขนมหวาน เค้ก (รูปทรงมงกุฎในทางตอนใต้) หรือ
กาแลตดูครัว (ทางเหนือของฝรั่งเศส) จัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม
2 กุมภาพันธุ์ วันทางศาสนาของชาวคริสเตียน
แรกเริ่มมาจาก เทศกาลแสงไฟ ในปี ค.ศ. 472
เทศกาลนี้ได้กลายเป็นการเฉลิมฉลองการเป็นตัวแทนของ พระเยซูภายในโบสถ์ตาม
ธรรมเนียมมีการทำขนมเครป แล้วโยนขึ้นกลับด้านโดยกำเงินไว้ในมือ
อีกข้างเพื่อถือเป็นการนำโชคดีมาสู่ ตัวผู้โยน
เทศกาลของชาวคาทอลิก เมื่อวันสิ้นสุด 7
วันหลังเทศกาลงานรื่นเริง (ซึ่งผ่านมื้ออาหารกันมาตลอดสัปดาห์) วันนี้กำหนดขึ้น 47
วันก่อนเทศกาลอีสเตอร์ และเป็นการ เริ่มต้นของกาเรม (เทศกาลถือศีลอด)
สัญลักษณ์ของเทศกาลนี้คืองานกานาวาล (ซึ่งมีความหมายถึงการเอาเนื้อออก
หรือการเริ่มต้นการถือศีล) ตามธรรมเนียมต้องการให้ชาวบ้านแต่งตัวหลากหลายในวันนั้น
(ในทุกวันนี้กลายเป็นเด็ก ๆ ) ในบางหมู่บ้านมีการเผาตุ๊กตากานาวาลในวันงานด้วย
เทศกาลของชาวคาทอลิก
เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเทศกาลถือศีลอด เป็นสัญลักษณ์ให้เตือนถึงการตาย
อาทิตย์แรกของเทศกาลศีลอด
(1er dimanche de Carême) ไม่มีกิจกรรมใด ๆ พิเศษ
พฤหัสบดีกลางเทศกาลศีลอด
(Jeudi de la Mi-cerême) เป็นสัญลักษณ์ครึ่งหนึ่งของช่วง
เทศกาลถือศีลอดที่มี
40 วัน(โดยไม่นับวันอาทิตย์) ตรงกับวันพฤหัสบดีของอาทิตย์ที่ 3
ของตลอดระยะเวลาเทศกาลถือศีล เป็นการพักของช่วงการถือศีล
ในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยฉลองกันนัก
รำลึกการเดินทางถึงนครเยรูซาเลมของพระเยซู
และความรักของ พระเยซุคริสต์และการเสียชีวิตบนไม้กางเขน
3 วันหลังจากวันสิ้นชีพของพระเยซู
พระเยซูได้
ฟื้นคืนชีพ
เทศกาลอีสเตอร์เป็นวันสำคัญที่สุดของ ปฎิทินชาวคริสต์ เป็นสัญลักษณ์ของวันสิ้นสุด
ของเทศกาลถือศีลอด
วันอีสเตอร์สอดคล้องกับวันอาทิตย์แรกต่อจากวันพระจันทร์เต็มดวงในฤดูใบไม้ ผลิ
ชาวคริสต์ต้องหยุดงานเพื่อไปสวดมิซซา ในวันนี้พระสันตปะปาจะประทานพรในฝรั่งเศสตามธรรมเนียมทำการมอบไข่
(ชอกโกแลต) หรือของประดับธรรมเนียมอื่น ๆเกี่ยวกับอาหาร : ทานแกะ
วันจันทร์อีสเตอร์ (Lundi
de Pâque)
ในยุคกลางตลอดสัปดาห์หลังเทศการอีสเตอร์เป็นสัปดาห์นักขัตฤกษ์
ในปัจจุบันเหลือลงเพียงวันจันทร์ และไม่ใช่งานฉลองที่เคยทำอย่างสม่ำเสมอ
ในกรณีของฝรั่งเศสไม่มีการฉลองเป็นพิเศษ
25 มีนาคม ตามศาสนาคริสต์ เทวดากาเบรียล
นำสารมาบอกมารีถึงการตั้งครรภ์พระเยซู 9
เดือนก่อนวันคริสต์มาสถือได้ว่าเป็นวันจุติของพระเยซู
เป็นวันระลึกถึง 150000
ฝรั่งเศสที่ถูกนำตัวไปเข้าค่ายกักกันของนาซี ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
วันรำลึกนี้จัดอยู่ในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายนวันรำลึกนี้จัดอยู่ใน
อาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายน
1 พฤษภาคม
เป็นธรรมเนียมของผู้ใช้แรงงานในการต่อสู้ที่มีอยู่ทั่วโลก
ในประเทศส่วนใหญ่จัดเป็นวันหยุดประจำปี ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นในปี 1919 และในปี
1947 เป็นวันหยุดเต็มวันโดยได้รับค่าแรงด้วย ในวันนี้สหภาพแรงงานต่าง ๆ
จะเดินขบวนกันตามเมืองต่าง ๆ ของประเทศ และมีการมอบช่อดอกมูเก้ด้วย
เป็นการฉลอง 39 วันหลังจากเทศกาลอีสเตอร์
หลังจากลงมาเผยแพร่คำสอน พระเยซุก็ได้เสด็จกลับขึ้นสวรรค์
ชัยชนะทีมีต่อเยอรมันในยุคการครอบครองโดยทหารนาซี สันติภาพได้กลับคืนสู่
ทวีปยุโรป โดยสัญญาสงบศึกที่ทำขึ้นในวันที 8 พฤษภาคม 1945 เวลาประมาณเที่ยงคืน
โดยมีนายพลโซเวียต Jpukov ฝ่ายนาซี Keitel
ผู้แทนจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และนายพล de Lattre ของฝรั่งเศส เป็นวันนักขัตฤกษ์ตั้งแต่ปี 1953 แต่ได้ถูกยกเลิกไปในสมัย V.Giscard
d’Estaing และได้กลับมากำหนดใหม่ในยุคของ F.Mitterrand 1 มิถุนายน 1981
เป็นวันเทศกาลของชาวคริสต์ กำหนดขึ้น7
อาทิตย์หลังเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อรำลึกถึงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาจากสวรรค์
วันเทศกาลของชาวคริสต์ อาทิตย์ที่ 8
หลังจากเทศกาลอีสเตอร์ ปัจจุบันไม่ค่อยมีการเฉลิมฉลองมากนัก ในศาสนาคริสต์
ทรินิเต้เป็นการกล่าวถึงพระเจ้าใน 3 บุคคล พระบิดา บุตร และพระจิต
ฉลองในวันพฤหัสบดีถัดจากวันทรินิเต้ (หรืออาจวันอาทิตย์ขึ้นอยู่กับทางปฏิบัติ)
ฉลองถึงความเสียสละของพระคริสต์ โดยมีการแบ่งขนมปัง
วันแม่
(Fête des mères)
กำหนดเป็นทางการในปี 1928
กำหนดไว้ในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม
(หรือกรณีพิเศษเลื่อนไปในเดือนมิถุนายนหากชนกับปงโดโค๊ต) ในปัจจุบันกลายเป็นการค้าและเป็นวันที่ชื่นชอบของเด็ก
ๆ
เช่นเดียวกับวันแม่
แต่มีกำหนดขึ้นเป็นทางการในปี 1952
รำลึกถึงวันแห่งการปฎิวัติของฝรั่งเศส 1789
โดยเฉพาะการทำลายคุกบาสตีล ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1978
คุกบาสตีลเป็นคุกสำคัญของปารีส และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ ในวันที่ 14
กรกฎาคม 1789 ชาวกรุงปารีสได้ทำการเผาและเข้ายึดคุก
การเข้ายึดคุกบาสตีลนี้กลายเป็น สัญลักษณ์ของการก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
15 สิงหาคม
วันทางศาสนาของชาวคาทอลิกที่ทำการฉลองในการที่พระแม่มารีขึ้นสู่สรวงสวรรค์
Croix
glorieuse
14 กันยายน กำหนดโดยจักรพรรดิกองสตองแตง
ในปี ค.ศ. 335 ในปัจจุบันมีการฉลองในวันนี้ไม่มากนัก
1 พฤศจิกายน วันทางศาสนาของชาวคาทอลิก
ในการเฉลิมฉลองให้กับทุกนักบุญโดยโบสถ์โรมัน
ในวันนี้ได้กลายเป็นวันเยี่ยมหลุมฝังศพ เพื่อวางดอกไม้กับผู้เสียชีวิตไปแล้ว
และดอกคริสซองแตม
เดฟัน (Défunts)
2 พฤศจิกายน
ในฝรั่งเศสรวมกันกับวันหยุดตุสแซง วันสิ้นสุดสงคราวโลกครั้งที่ 1 (Armistice 1918) 11 พฤศจิกายน 1918
รำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีการเซ็นสัญญายุติสงครามที่ Rethondes
ป่า Compiège (Oise)
วันทางศาสนาของชาวคาทอลิกอาทิตย์สุดท้ายของปี
5 อาทิตย์ก่อนคริสต์มาส Avent ช่วงเวลาหลังจากคริสต์มาส
ระหว่าง 3-4 สัปดาห์
เป็นเทศกาลการเกิดของพระเยซูคริสต์ มีการกำหนดขึ้นในปี
ค.ศ. 354 โดยสันตปาปา Libère มีการประดับตกแต่งในวันที่
24 ธันวาคมตอนเย็น ด้วยต้นสน คอกเด็ก ของขวัญ และทานอาหรระหว่างครอบครัว
เทศกาลนี้ยังกลายเป็น สัญลักษณ์การทำค้าขาย อย่างมหาศาล
ต่อจากคริสต์มาส
(อาทิตย์หรือศุกร์ถัดไปหากวันคริสต์มาส ตรงกับวันอาทิตย์)เป็นการสร้างครอบ
ครัวโดยเยซูและมีบุพการีคือ มารีและโยเซพ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)